5 Aug. 2022เส้นสายสร้างโลกกว้าง คนในยุคมิลเลนเนียลที่เข้าสู่วัยทำงานในระหว่างช่วงปี พ.ศ. 2546-2559 มีความคุ้นเคยดีกับสิ่งที่เป็นดิจิตอล ทั้งการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตด้วยความเร็วสูง การใช้สมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์เชื่อมต่อระบบเครือข่ายในทุกรูปแบบ แม้คนในยุคนี้จะได้รับประสบการณ์ของเทคโนโลยีขั้นสูงเหล่านี้ในระหว่างการใช้ชีวิต แต่ส่วนมากก็คงไม่ได้ตระหนักหรอกว่า สายเคเบิลที่ทำจากทองแดงต่างๆ ได้ถูกพัฒนาและเดินทางผ่านกาลเวลามาอย่างยาวไกลแค่ไหนเพื่อมาให้ถึงวันที่เครือข่ายที่มีสายเคเบิ้ลเป็นพื้นฐานเหล่านี้สามารถทำให้โลกกว้างขึ้นได้อย่างทุกวันนี้ สายเคเบิลอีเทอร์เน็ตประเภทต่างๆ ระบบอีเทอร์เน็ต ได้รับการพัฒนามาตั้งแต่ปี พ.ศ.2516 โดย Bob Metcalfe ที่ศูนย์วิจัย Xerox Palo Alto และใช้สายเคเบิลทองแดงแบบหนา ประเภทโคแอกเซียลในระยะเริ่มต้น เวอร์ชั่นแรก แบบ 10BASE5 มีความโดดเด่นมากด้วยสายเคเบิลที่มีความแข็งมาก โดยมีเส้นผ่านศูนย์กลางเกือบครึ่งนิ้ว เวอร์ชั่นต่อมา 10BASE2 มีความหนาลดลง และความยืดหยุ่นมากขึ้นกว่าครึ่งหนึ่งของเวอร์ชั่นแรก ในช่วงปลายทศวรรษ 1980 การพัฒนาอีเทอร์เน็ตฮับและสวิตช์ ทำให้สายเคเบิลแบบสายคู่บิดเกลียว กลายเป็นสื่อกลางในการเชื่อมต่ออีเทอร์เน็ต ประเภทที่ 3 – 4 – และ 5 ในปี พ.ศ. 2532 Anixter ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สายเคเบิล ได้เปิดตัวโปรแกรม “Levels” หรือ ระบบการระบุประสิทธิภาพของสายเคเบิลรับส่งข้อมูล ขึ้นเป็นครั้งแรก ซึ่งมันก็ได้กลายเป็นพื้นฐานที่ก่อให้เกิดสายเคเบิ้ลที่มีการจำแนกประเภทตามมาตรฐานอย่างเป็นทางการ ต่อมาได้มีการรับรองสายเคเบิ้ลประเภทที่ 3 โดยสมาคมอุตสาหกรรมการสื่อสารโทรคมนาคม มันรองรับความเร็วในการใช้งานที่ 10 Mbps และเป็นต้นแบบในการวิวัฒนาการสายเคเบิ้ลประเภททวิสต์แพร์ในอีก 30 ปีต่อมา แม้ในปัจจุบันเคเบิ้ลประเภทที่ 3 นี้ จะไม่ได้รับการแนะนำให้ใช้งานจากมาตรฐานอุสาหกรรมอีกต่อไป สายเคเบิ้ลประเภทที่ 3 นี้ ก็ยังคงได้รับการนำมาติดตั้งในอาคารพาณิชย์ต่างๆอยู่บ้างสำหรับใช้งานในด้านเสียง สายเคเบิ้ลประเภทที่ 3 และ 4 ถูกนำมาใช้งานอยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง และในที่สุดก็ตกลำดับไป เนื่องจากถูกแทนที่ด้วยเคเบิ้ลประเภทที่ 5 อย่างรวดเร็ว ประเภท 5e และ 6 ประมาณ พ.ศ. 2544 สายเคเบิ้ลประเภท 5e เปิดตัวด้วยประสิทธิการป้องกันการถูกรบกวนสัญญาณที่ดีขึ้น เพื่อให้รองรับความเร็วระดับกิ๊กกะบิท จากนั้น ประเภทที่ 6 ก็ออกมา ซึ่งรองรับความเร็วได้ถึง 10 Gbps แต่ยาวสูงสุดเพียง 35 เมตร จากการทดสอบคุณภาพสายเคเบิ้ลประเภท 5e และ 6 มันสามารถใช้งานกับ Wi-Fi 6 ได้ที่ความเร็ว 2.5Gิb/s และ 5.0Gb/s และมีความยาวสายเคเบิลสูงสุดถึง 100 เมตร และสามารถใช้งานกับความเร็ว 10Gb/s ได้ถึง 55 เมตรด้วย ประเภท 6A สายเคเบิ้ลประเภท 6A ถูกรับรองให้มีขีดความสามารถใช้ได้กับความเร็ว 10Gbps ได้ถึง 100 เมตร โดยมันเป็นสายเคเบิลที่ถูกแนะนำให้นำมาใช้สำหรับการติดตั้งสาย LAN รุ่นใหม่ทั้งหมดที่ติดตั้งในแนวราบ แม้ว่าตอนนี้ สายเคเบิ้ลรุ่นนี้ จะมีมานานกว่า 1 ทศวรรษแล้ว แต่สายเคเบิ้ลประเภท 6A นี้ ก็ยังคงถูกใช้งานอยู่ ใน 5 ปีที่ผ่านมานี้ คุณสมบัติจำเพาะของสาย LAN ทั่วๆไปในปัจจุบัน สายต้องรองรับความเร็วได้ถึง 10Gb/s แต่มันก็ยังถูกนำมาใช้ในงานที่มีความเร็วประมาณ 1000 Mb/s หรือน้อยกว่านั้นด้วย ประเภท 7, 7A และ 8 สายเคเบิ้ลประเภท 7 และ 7A ถูกรับรองในปี 2002 และ 2010 ตามลำดับ โดย ISO/IEC แม้ว่าสายประเภท 7A จะไ่ม่ได้ถูกรองรับโดย TIA แต่ก็ยังคงเป็นที่แพร่หลายในยุโรปในการใช้งานที่ความเร็ว 10Gbps ต่อมา สายประเภท 8 เป็นสายที่ได้รับความนิยมมาก ในฐานะที่มันรองรับความเร็ว 25 Gbps และ 40 Gbps ได้ที่ความยาวสูงสุด 30 เมตรในการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ โดยไม่ต้องถอดออก การใช้งานสายประเภท 8 จึงทำให้มีปัญหาด้านการใช้พลังงาน ความก้าวหน้าในเทคโนโลยีตัวรับส่งสัญญาณช่วยให้ศูนย์เซิร์ฟเวอร์สามารถใช้งานสายประเภท 8 ได้ง่ายมากขึ้น ด้วยการใช้สายต่อตรงแบบ SFP28 และ SFP56 ในการกำหนดค่า ToR หรือ การรวมสายออปติก และการวางโครงสร้างสายไฟเบอร์ที่มีการเชื่อมต่อยาวขึ้น และบางครั้งมันยังถูกนำมาใช้งานทดแทนสายประเภท 6 ด้วย และใช้ในงานที่ต้องการการรองรับความเร็วที่สูงกว่าเคเบิ้ลประเภท 6 จะสามารถรองรับได้ Ethernet Cable Category Comparison *1 อาจมากถึง 2.5 หรือ 5 Gb/s ในบางแหล่งข้อมูล
|
บทความที่น่าสนใจ เน็ตช้า หลุดบ่อย มีสัญญาณแต่ใช้การ LinkIQ เครื่องมือทดสอบระบบ ความมหัศจรรย์ของเส้นใยแก้วนำแสง
FiberLert เครื่องมือตรวจสอบ การตรวจสอบรับรองสายสัญญาณ |
Fluke Network, สายเคเบิล, เครือข่าย, อีเทอร์เน็ต, Ethernet, POE, LinkIQ, เครื่องมือทดสอบสายเคเบิล
INDUSTRIAL ELECTRICAL CO., LTD.
© 2014 Copyright by ie.co.th . All Rights Reserved. |
GOOGLE MAP |
SITE MAP |
|